มังคุด ราชินีแห่งผลไม้
มังคุดเป็นผลไม้ยอดนิยมที่สุดชนิดหนึ่งของคนไทย จะมีออกมาให้เราบริโภคเพียงปีละครั้ง คือช่วงย่างเข้าฤดูฝน การบริโภคมังคุดจะให้พลังงานต่ำ เหมาะเป็นผลไม้สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก กากใยจากเนื้อของมังคุดช่วยในการขับถ่าย และยังได้สารอาหาร วิตามิน และเกลือแร่ อื่นๆ อีกหลายชนิด เช่น น้ำตาล กรดอินทรีย์ แคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็กในขณะที่เปลือกของมังคุดก็มีประโยชน์มากมาย ซึ่งจากภูมิปัญญาของคนไทยสมัยโบราณ ได้มีการค้นพบสรรพคุณรสฝาดสมานของเลือกมังคุด ในด้านการใช้เป็นยารักษาโรค เช่น นำเปลือกแห้งหรือสดมาฝนกับน้ำรับประทาน เพื่อรักษาอาการท้องเสีย ท้องร่วงเรื้อรัง และอาการถ่ายเป็นมูกเลือด หรือใช้น้ำต้มเปลือกมังคุดแห้งล้างแผล จะช่วยทำให้แผลหายเร็วขึ้น เพราะมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อและสมานบาดแผลนอกจากนี้ มังคุดยังมีสรรพคุณที่โดดเด่นทางด้านผิวหนัง ก็คือ มีการใช้เปลือกมังคุดรักษาโรคผิวหนัง เช่น รักษาสิว กลาก เกลื้อน บรรเทาอาการผดผื่นทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ได้เป็นอย่างดี โดยผลที่ได้นี้ได้รับการพิสูจน์และยืนยันจากการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบ ว่า รสฝาดในเปลือกมังคุดนี้มีสารแทนนิน (Tannin) และสารแซนโทน (Xanthone) ซึ่ง สารแทนนินมีฤทธิ์สมานแผล ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น สารแซนโทนมีฤทธิ์ช่วยลดอาการอักเสบ และต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนอง และยังมีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อราที่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนังและกลากได้
สรรพคุณของสารสกัดแซนโทนด้วยเทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้าในปัจจุบัน กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สามารถทำการศึกษาถึงประโยชน์จากสารสำคัญที่มีอยู่ในเปลือกมังคุด คือแทนนินและแซนโทน สารแซนโทน (Xanthone) มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง (Super-Antioxidant) จึงมีการศึกษามากมายที่ชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ของสารแซนโทนที่มีในเปลือก มังคุดแซนโทนคืออะไร ?แซนโทน (Xanthone) เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง (Super-Antioxidant) สามารถสกัดได้จากเปลือกชั้นใน เนื้อ และเมล็ดของมังคุด แต่จากผลงานวิจัย พบว่าสารสกัดแซนโทนจากเปลือกชั้นในของมังคุดนั้นมีปริมาณสารแซนโทนสูงที่สุด เมื่อเทียบกับส่วนอื่นๆ นอกจากคุณสมบัติของการต่อต้านอนุมูลอิสระแล้ว สารแซนโทนยังมีคุณสมบัติทางยาอีกด้วย และมีผลของการศึกษาฤทธิ์ในการจับอนุมูลอิสระ ซึ่งมีหน่วยวัดประสิทธิภาพที่เรียกว่า ออแร็ก (ORAC Oxygen Radical Absorbance Capacity) จากการเปรียบเทียบระหว่างน้ำผลไม้อื่นๆ และมังคุด โดย Brunswick Laboratories พบว่า สารสกัดแซนโทนจากมังคุดมีฤทธิ์ในการจับอนุมูลอิสระมากกว่าแครอท ราสเบอรรี่ บลูเบอรรี่ ลูกยอ และทับทิมนอกจากมังคุดจะเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ และรสชาติอร่อยแล้ว ปัจจุบัน วงการเครื่อสำอางค์ และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ได้ให้ความสนใจนำสารสกัดจากเปลือกมังคุดไปใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เนื่องด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้
· ต่อต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) สาเหตุของริ้วรอยก่อนวัย
· มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา (Antiseptic) อันเป็นสาเหตุของโรคผิวหนัง และปัจจัยที่ก่อให้เกิดสิว ป้องกันการอักเสบของสิว และกระชับรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว
· ช่วยชะลอความแก่ชราของเซลล์ผิว ทำให้ผิวหน้าแลดูสดใส และสุขภาพดี (Anti-Aging)
· ทำให้ผิวพรรณเต่งตึงกระชับ (Skin Firming & Tightening) ช่วยสมานผิว กระชับรูขุมขน (Astringent) ได้ดี
· ลดปริมาณเม็ดสีที่ผิวหนัง ทำให้ผิวขาวกระจ่างใส (Pigmentations Lightening) อย่างเป็นธรรมชาติ
มังคุด จึงไม่ใช่เพียงผลไม้ที่รสชาติอร่อย แต่ยังมีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพและความงามอีกด้วย มังคุด จึงเป็นของขวัญล้ำค่าที่ธรรมชาติได้มอบให้กับมวลมนุษยชาติอย่างแท้จริง
มังคุด : Mangosteenชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Garcinia mangostana Linn.วงศ์ : Guttiferaeที่มา : SNatur MAGAZINE ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 มกราคม 2552ผู้เขียน : ณัฐธนัญ วัชระสมบัติ, วทบ. ชีววิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล
มังคุดเป็นผลไม้ยอดนิยมที่สุดชนิดหนึ่งของคนไทย จะมีออกมาให้เราบริโภคเพียงปีละครั้ง คือช่วงย่างเข้าฤดูฝน การบริโภคมังคุดจะให้พลังงานต่ำ เหมาะเป็นผลไม้สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก กากใยจากเนื้อของมังคุดช่วยในการขับถ่าย และยังได้สารอาหาร วิตามิน และเกลือแร่ อื่นๆ อีกหลายชนิด เช่น น้ำตาล กรดอินทรีย์ แคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็กในขณะที่เปลือกของมังคุดก็มีประโยชน์มากมาย ซึ่งจากภูมิปัญญาของคนไทยสมัยโบราณ ได้มีการค้นพบสรรพคุณรสฝาดสมานของเลือกมังคุด ในด้านการใช้เป็นยารักษาโรค เช่น นำเปลือกแห้งหรือสดมาฝนกับน้ำรับประทาน เพื่อรักษาอาการท้องเสีย ท้องร่วงเรื้อรัง และอาการถ่ายเป็นมูกเลือด หรือใช้น้ำต้มเปลือกมังคุดแห้งล้างแผล จะช่วยทำให้แผลหายเร็วขึ้น เพราะมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อและสมานบาดแผลนอกจากนี้ มังคุดยังมีสรรพคุณที่โดดเด่นทางด้านผิวหนัง ก็คือ มีการใช้เปลือกมังคุดรักษาโรคผิวหนัง เช่น รักษาสิว กลาก เกลื้อน บรรเทาอาการผดผื่นทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ได้เป็นอย่างดี โดยผลที่ได้นี้ได้รับการพิสูจน์และยืนยันจากการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบ ว่า รสฝาดในเปลือกมังคุดนี้มีสารแทนนิน (Tannin) และสารแซนโทน (Xanthone) ซึ่ง สารแทนนินมีฤทธิ์สมานแผล ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น สารแซนโทนมีฤทธิ์ช่วยลดอาการอักเสบ และต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนอง และยังมีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อราที่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนังและกลากได้
สรรพคุณของสารสกัดแซนโทนด้วยเทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้าในปัจจุบัน กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สามารถทำการศึกษาถึงประโยชน์จากสารสำคัญที่มีอยู่ในเปลือกมังคุด คือแทนนินและแซนโทน สารแซนโทน (Xanthone) มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง (Super-Antioxidant) จึงมีการศึกษามากมายที่ชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ของสารแซนโทนที่มีในเปลือก มังคุดแซนโทนคืออะไร ?แซนโทน (Xanthone) เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง (Super-Antioxidant) สามารถสกัดได้จากเปลือกชั้นใน เนื้อ และเมล็ดของมังคุด แต่จากผลงานวิจัย พบว่าสารสกัดแซนโทนจากเปลือกชั้นในของมังคุดนั้นมีปริมาณสารแซนโทนสูงที่สุด เมื่อเทียบกับส่วนอื่นๆ นอกจากคุณสมบัติของการต่อต้านอนุมูลอิสระแล้ว สารแซนโทนยังมีคุณสมบัติทางยาอีกด้วย และมีผลของการศึกษาฤทธิ์ในการจับอนุมูลอิสระ ซึ่งมีหน่วยวัดประสิทธิภาพที่เรียกว่า ออแร็ก (ORAC Oxygen Radical Absorbance Capacity) จากการเปรียบเทียบระหว่างน้ำผลไม้อื่นๆ และมังคุด โดย Brunswick Laboratories พบว่า สารสกัดแซนโทนจากมังคุดมีฤทธิ์ในการจับอนุมูลอิสระมากกว่าแครอท ราสเบอรรี่ บลูเบอรรี่ ลูกยอ และทับทิมนอกจากมังคุดจะเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ และรสชาติอร่อยแล้ว ปัจจุบัน วงการเครื่อสำอางค์ และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ได้ให้ความสนใจนำสารสกัดจากเปลือกมังคุดไปใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เนื่องด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้
· ต่อต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) สาเหตุของริ้วรอยก่อนวัย
· มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา (Antiseptic) อันเป็นสาเหตุของโรคผิวหนัง และปัจจัยที่ก่อให้เกิดสิว ป้องกันการอักเสบของสิว และกระชับรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว
· ช่วยชะลอความแก่ชราของเซลล์ผิว ทำให้ผิวหน้าแลดูสดใส และสุขภาพดี (Anti-Aging)
· ทำให้ผิวพรรณเต่งตึงกระชับ (Skin Firming & Tightening) ช่วยสมานผิว กระชับรูขุมขน (Astringent) ได้ดี
· ลดปริมาณเม็ดสีที่ผิวหนัง ทำให้ผิวขาวกระจ่างใส (Pigmentations Lightening) อย่างเป็นธรรมชาติ
มังคุด จึงไม่ใช่เพียงผลไม้ที่รสชาติอร่อย แต่ยังมีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพและความงามอีกด้วย มังคุด จึงเป็นของขวัญล้ำค่าที่ธรรมชาติได้มอบให้กับมวลมนุษยชาติอย่างแท้จริง
มังคุด : Mangosteenชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Garcinia mangostana Linn.วงศ์ : Guttiferaeที่มา : SNatur MAGAZINE ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 มกราคม 2552ผู้เขียน : ณัฐธนัญ วัชระสมบัติ, วทบ. ชีววิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น