ค่าสมัคร 500 บาท

ค่าสมัคร 500  บาท
ได้แถมฟรี 700 บาท ฟรี ค่าส่ง 100 บาทแถมเว็บฟรี 1500

วีดีโอ ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ ชุดฟ้าหลังฝน ชีวิตต้องสู้ ๆ ๆ

วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ปัจจัยกำหนดอัตราเบี้ยประกันภัย



ปัจจัยกำหนดอัตราเบี้ยประกันภัย"
แหล่งที่มา: กรมการประกันภัย

เบี้ยประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจตามโครงสร้างใหม่ อาศัยปัจจัยต่างๆ ในการคำนวณเบี้ยประกันภัย ดังนี้

1. ลักษณะการใช้รถยนต์เป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยประกันภัย เช่น รถยนต์ที่มีความเสี่ยงภัยน้อยกว่าจะเสียเบี้ยประกันภัยถูกกว่า

2. ขนาดรถยนต์รถขนาดเล็กมีความเสี่ยงภัยน้อยกว่ารถยนต์ขนาดใหญ่เบี้ยประกันภัยจึงต้องต่ำกว่า

3. กลุ่มรถยนต์รถแต่ละยี่ห้อมีราคาอะไหล่และค่าซ่อมแตกต่างกัน จึงได้แบ่งกลุ่มรถยนต์ออกเป็น 5 กลุ่ม โดยอาศัยราคาค่าซ่อมและราคาอะไหล่เป็นตัวกำหนด

4. อัตราเบี้ยประกันภัย

5. อายุรถยนต์เป็นตัวแปรที่ทำให้ความเสี่ยงภัยเพิ่มขึ้นหรือลดลง

6. อายุผู้ขับขี่ผู้มีอายุในวัยหนุ่มสาวมีความคึกคะนองและมีสถิติเกิดอุบัติเหตุสูงกว่าวัยกลางคน

7. การระบุชื่อผู้ขับขี่จะเสียเบี้ยประกันภัยต่ำกว่าไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่ ถ้าทำประกันภัยในจำนวนเงินเอาประกันสูง ย่อมเสียเบี้ยประกันภัยสูงกว่าจำนวนเงินเอาประกันภัย ที่ต่ำกว่า

8. อุปกรณ์พิเศษเช่น อุปกรณ์ดัมพ์ อุปกรณ์ไฮดรอลิค เป็นต้น ทำให้ความเสี่ยงภัยเพิ่มขึ้น


ตอน "การลดหรือเพิ่มเบี้ยประวัติ"
แหล่งที่มา: กรมการประกันภัย

ข้อกำหนดในการ การลดหรือเพิ่มเบี้ยประกันภัยเนื่องจากประวัติ มีดังต่อไปนี้

กรณี ประวัติดี มีส่วนลดเบี้ยประกันภัยไว้ 4 ขั้น ขั้นละปีตามลำดับ 20% 30% 40% และ 50% หากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในปีใดปีหนึ่งยังคงมีส่วนลด เบี้ยประวัติในกรณีผู้เอาประกันภัย
ไม่ได้เป็นฝ่ายประมาท และสามารถแจ้งคู่กรณีได้บริษัทประกันภัยจะให้ส่วนลดเพิ่ม
เป็นฝ่ายประมาท หรือ ไม่สามารถแจ้งคู่กรณีได้ส่วนลดจะน้อยลงไปเท่ากับปีที่ผ่านมา เช่น ปีนี้ควรจะได้รับส่วนลด 30% แต่ผู้เอาประกันภัยเป็นฝ่ายประมาท ส่วนลดที่ได้รับจะเหลือเพียง 20%
เป็น ฝ่ายประมาท หรือ ไม่สามารถแจ้งคู่กรณีได้ และ มีการเรียกร้องค่าสินไหมตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไป และ มีจำนวนเงินเกิน 200% ของเบี้ยประกันส่วนลดประวัติจะลดลง 2 ลำดับขั้น แต่ไม่เกินอัตราปกติ เช่นปีนี้ควรจะได้รับส่วนลด 30% แต่ผู้เอาประกันภัยเป็นฝ่ายประมาทและมีการเรียกร้องสินไหม ทดแทน 3 ครั้งรวมเป็นเงิน 60,000 บาท ขณะที่เบี้ยประกันภัยมีอัตรา 15,000 บาทส่วนลดที่ได้รับจะเหลือ 0% กรณีประวัติไม่ดี มีส่วนเพิ่มเบี้ย ประกันภัย 4 ขั้นขั้นละ 1 ปีตามลำดับคือ 20% 30% 40% และ 50% เช่นกัน
ส่วนลดเบี้ยประกันภัยประวัติดี
หาก รถที่เอาประกันภัยไม่เกิดความเสียหายเลย หรือเกิดความเสียหายแต่มิได้เกิดจากความประมาทของรถยนต์คันที่เอาประกันภัย และสามารถแจ้งคู่กรณีได้ จะได้รับส่วนลดประวัติดีตามลำดับขั้นในแต่ละปี สูงสุดถึง 50% ของเบี้ยประกันภัยในปีที่ต่ออายุ
จำนวนปีที่ไม่ได้เรียกร้องค่าสินไหมทดแทน
ส่วนลด
1
20 %
2
30 %
3
40 %
4
50 %

ตอน "ความเสียหายส่วนแรก"
แหล่งที่มา: กรมการประกันภัย

ข้อกำหนดเกี่ยวกับความเสียหายส่วนแรก มีดังต่อไปนี้

ก่อน อื่นต้องขออธิบายความหมายของคำว่า “ความเสียหายส่วนแรก” ให้ทราบก่อน ตามคำจำกัดความในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์แบบใหม่ ให้ความหมายความเสียหายส่วนแรกไว้ว่า ความเสียหายส่วนแรก หมายถึงจำนวนเงินค่าความเสียหายในแต่ละครั้งที่ผู้เอาประกันภัยตกลงรับ ผิดชอบเองในกรณีที่เกิดความเสียหายขึ้นจากอุบัติเหตุจากรถ
ความเสียหายส่วนแรกโดยสมัครใจ
สำหรับ เจ้าของรถที่มีความเชื่อมั่นในตนเอง และ มีความระมัดระวังในการขับรถอาจเลือกรับผิดชอบความเสียหายส่วนแรกเอง ซึ่งสามารถเลือกได้ 2 ประเภทความคุ้มครอง คือ คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์ (รถเราเอง) และคุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก (รถหรือทรัพย์ สินของบุคคลภายนอก) โดยบริษัทประกันภัยจะลดเบี้ยประกันภัยให้เป็นจำนวนเงินตามเงื่อนไขในสัญญา
ความเสียหายส่วนแรกในกรณีผิดสัญญา
1. กรณีกรมธรรม์แบบระบุชื่อแต่บุคคลอื่นขับขี่และเป็นฝ่ายต้องรับผิดชอบ ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายส่วนแรกต่อความเสียหายดังนี้6,000 บาทแรก สำหรับความเสียหายต่อตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย2,000 บาทแรก สำหรับความเสียหายต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก
2. กรณีใช้รถผิดประเภทเช่น นำรถส่วนบุคคลไปรับจ้าง ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบเอง ดังนี้ 2,000 บาทแรก สำหรับความเสียหายต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก

ตอน "การหยุดใช้รถ / การโอนรถยนต์ / การเข่าซื้อรถยนต์"
แหล่งที่มา: กรมการประกันภัย

ข้อควรรู้ที่หลายท่านอาจจะยังไม่เคยรู้ (1)

การหยุดใช้รถผู้เอาประกันภัยสามารถแจ้งการหยุดใช้รถยนต์เพื่อขอรับเบี้ยประกันภัยคืนจากบริษัทผู้ประกันภัยได้โดย
1. ต้องแจ้งล่วงหน้าเพื่อขอหยุดการใช้รถยนต์ (เช่นกรณีต้องเดินทางไปต่างประเทศ เป็นเวลานาน) การคืนเบี้ยประกันภัยให้เฉลี่ยเป็นรายวัน
2. ห้ามคืนเบี้ยประกันภัยในการหยุดใช้รถในกรณีดังต่อไปนี้ หยุดการใช้รถระหว่างการซ่อมแซม หรือ หยุดการใช้รถยนต์น้อยกว่า 30 วัน
การโอนรถยนต์
เมื่อ ผู้เอาประกันรถยนต์โอนรถยนต์ให้บุคคลอื่น ให้ถือว่าผู้รับโอนเป็นผู้เอาประกันภัยตามกรมธรรม์นี้ และบริษัทผู้รับประกันภัยต้องรับผิดชอบ ตามกรมธรรม์ประกันภัยต่อไปตลอดอายุกรมธรรม์ประกันภัยที่ยังเหลืออยู่ ในกรณีเป็นการทำประกันภัยประเภทระบุชื่อผู้ขับขี่ผู้เอาประกันภัย จะต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงผู้ขับขี่ให้บริษัทประกันภัยทราบ เพื่อจะได้ทำการปรับปรุงอัตราเบี้ยประกันภัยตามสภาพความเสี่ยงภัยที่เปลี่ยน แปลง มิฉะนั้นผู้เอาประกันภัยอาจจะต้องรับผิดชอบในความเสียหายส่วนแรกเอง ตามเงื่อนไขความคุ้มครองที่ปรากฏในกรมธรรม์
รถยนต์เช่าซื้อรถยนต์
การ ประกันภัยรถยนต์เช่าซื้อ ให้บริษัทผู้รับประกันภัยแต่ผู้เดียวเท่านั้น การยกผลประโยชน์ตามส่วนได้ส่วนเสียให้ผู้ให้เช่าซื้อเป็นผู้เอาประกันภัย แต่ผู้เดียวเท่านั้น การยกผลประโยชน์ตามส่วนได้เสียให้ผู้ให้เช่าซื้อ ให้บริษัทใช้เอกสารแนบท้าย

ตอน "การจัดการเรียกร้องเมื่อเกิดความเสียหาย"
แหล่งที่มา: กรมการประกันภัย

ความคุ้มครองของบริษัทจะเกิดขึ้นเมื่อผู้เอาประกันภัย หรือผู้ขับขี่ดำเนินการโดยสุจริต

การจัดการเรียกร้องเมื่อเกิดความเสียหาย
เมื่อ มีความเสียหาย หรือความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยที่เกิดขึ้น ผู้เอาประกันภัยหรือผู้ขับจะต้องแจ้งให้บริษัทผู้รับประกันภัยทราบโดยไม่ชัก ช้าและดำเนินการอันจำเป็นเพื่อรักษาสิทธิตามกฎหมาย บริษัทมีสิทธิเข้าดำเนินการในนามของผู้เอาประกันภัยเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่ เกิดขึ้นได้ หากความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ภายใต้ความคุ้มครองในกรมธรรม์ ความคุ้มครองของบริษัทจะเกิดขึ้นเมื่อผู้เอาประกันภัย หรือผู้ขับขี่ดำเนินการโดยสุจริต
เมื่อเกิดเหตุคุณจะทำอย่างไร
1. แจ้งอุบัติเหตุทันทีต่อบริษัทประกันภัย
2. เมื่อเจ้าหน้าที่บริษัทดำเนินการสำรวจความเสียหายแล้ว จะให้ใบรับแจ้งเหตุไว้
3. นำเอกสารใบรับแจ้งเหตุไปให้บริษัทประกันภัยคุมราคาทรัพย์สินที่เสียหายก่อนทำการซ่อม
4. นำรถเข้าซ่อมกับอู่ที่บริษัทเสนอ หรืออู่ที่ท่านเลือก (กรณีตกลงราคากันได้) หรืออู่กลางกรมการประกันภัย
5. เมื่อรถซ่อมเสร็จ ควรสำรวจความเรียบร้อยก่อนรับกลับคืน และลงนามในเอกสารรับรถตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง

ตอน "การบอกเลิกกรมธรรม์ / การสิ้นผลบังคับของกรมธรรม์"
แหล่งที่มา: กรมการประกันภัย

ข้อควรรู้ที่หลายท่านอาจจะยังไม่เคยรู้ (2)

การบอกเลิกกรมธรรม์ผู้เอาประกันภัยและบริษัทประกันภัยสามารถบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยได้
1. กรณี บริษัทบอกเลิก ต้องส่งหนังสือบอกกล่าวไม่น้อยกว่า 15 วัน ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนถึงผู้เอาประกันภัย ตามที่อยู่ครั้งสุดท้ายที่แจ้งให้บริษัท ทราบ และบริษัทจะคืนเบี้ยประกันให้แก่ผู้เอาประกันภัยโดยหักเบี้ยประกันภัยสำหรับ ระยะเวลาที่กรมธรรม์ใช้บังคับมาแล้วออกตามส่วน
2. กรณี ผู้เอาประกันบอกเลิก ให้แจ้งให้บริษัททราบเป็นลายลักษณ์อักษรมีสิทธิได้รับเบี้ยประกันภัยคืนตาม อัตราการคืนเบี้ยประกันภัยที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
3. กรณีเป็นการประกันภัยกลุ่มและมีการลดจำนวนรถยนต์ ให้คืนเบี้ยประกันภัยเฉลี่ยรายวัน

การสิ้นผลบังคับของกรมธรรม์
1. ณ วันเวลาที่ระบุไว้ในตาราง
2. เมื่อ ผู้เอาประกันภัยไม่ชำระเบี้ยประกันภายในกำหนด 60 วัน นับตั้งแต่วันที่กรมธรรม์เริ่มมีผลบังคับให้ถือว่าผู้เอาประกันภัยไม่ ประสงค์จะเอาประกันภัยอีกต่อไป
3. มีการบอกเลิกกรมธรรม์ โดยผู้เอาประกันภัยหรือบริษัทประกันภัยเป็นฝ่ายบอกเลิกก็ได้

ตอน "เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชน...ทำอย่างไรดี"
สาระน่ารู้จาก บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด

เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชน ไม่ว่าเราจะเป็นคนขับ ผู้โดยสารหรือผู้เห็นเหตุการณ์ เราควรปฎิบัติอย่างไร

1. ถ้าเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ ควรเข้าช่วยเหลือคนป่วยเจ็บตามสมควร และเราจะต้องแสดงตัวเป็นพลเมืองดี โดยยินดีที่จะเป็นพยานในคดีให้ สมมุติว่าเราเห็นรถคันหนึ่งชนคนแล้วหนี สิ่งที่เราควรช่วยหลือจับกุมคนที่ทำผิดได้ก็คือพยายามจดทะเบียนรถ ชื่อยี่ห้อ สีรถที่ชนไว้ได้แล้วรีบแจ้งให้ตำรวจทราบเพื่อติดตามจับกุมต่อไป มีพลเมืองดีบางท่านถึงกับขับรถตามจับคนขับที่ชนคนแล้วหนีได้ คนประเภทนี้ควรได้รับการยกย่องว่าเป็นคนดีมีประโยชน์ต่อสังคม

2. ถ้าท่านเป็นคนเจ็บเพราะรถชน ท่านจะต้องปฏิบัติเช่นเดียกับข้อ 1. สิ่งแรกคือท่านจะต้องขอร้องให้คนอื่น หรือตำรวจนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุดเพื่อช่วยชีวิตเขาไว้ก่อน ส่วนเรื่องคดีนั้นเอาไว้พิจารณาภายหลัง แต่ถ้าเจ็บเล็กน้อยพอยอมความได้ก็ยอมเสีย เพื่อมิให้เสียเวลาโดยใช่เหตุ แต่จะต้องพยายามขอชื่อหรือจำทะเบียนรถคันที่ชนเราไว้ให้ได้ เพราะถ้าหากผู้ขับขี่เบี้ยวเราภายหลังเราจะได้จัดการเรียกค่าเสียหายได้ตาม กฎหมาย มิฉะนั้นแล้วจะไม่รู้ว่าจะไปฟ้องร้องเขาจากใคร ที่ไหน

3. ถ้าท่านเป็นคนขับ ถ้าท่านเป็นคนขับรถชนกัน สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือ อย่าหนีเป็นอันขาด เพราะความผิดฐานขับรถประมาทนั้นไม่ใช่เรื่องเจตนา ผู้กระทำผิดไม่ใช่อาชญากร โทษก็ไม่มากมายอะไร ควรจะอยู่เพื่อต่อสู้กับความจริง มิฉะนั้นท่านจะต้องหลบหนีนานถึง 15 ปี ถ้าท่านขับรถชนคนตาย แต่ถ้าท่านมอบตัวสู้คดี บางทีท่านก็ไม่มีความผิด หรือมีความผิดศาลก็ปรานีลดโทษให้ ถ้าท่านเป็นคนดีมีน้ำใจ

หน้าที่ของคนขับรถเมื่อเกิดรถชนกันนั้น กฎหมายกำหนดไว้ดังนี้
1. ต้องหยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควร เช่น ขับรถชนคนก็ต้องหยุดรถ ช่วยเหลือคนที่ถูกชน นำส่งโรงพยาบาลเท่าที่จะทำได้
2. ต้อง ไปแสดงตัวและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ใกล้เคียงทันที คือต้องรีบไปแจ้งตำรวจที่ใกล้เคียงทันที แต่ต้องบอกตำรวจด้วยว่าเราเป็นคนขับรถอะไร
3. แจ้งชื่อตัว ชื่อสกุล ที่อยู่หมายเลขทะเบียนรถ แก่ผู้ได้รับความเสียหายด้วย
4. ถ้า ผู้ขับขี่หลบหนีหรือไม่แสดงตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ กฎหมายให้สันนิฐานว่าเป็นผู้กระทำผิด และตำรวจมีอำนาจยึดรถที่ขับไว้จนกว่าจะได้ตัวผู้ขับขี่หรือจนกว่าคดีจะถึง ที่สุด
5. ถ้าคนขับคนใดไม่ปฏิบัติตาม ข้อ (1), (2) และ (3) แล้วจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท แต่ถ้าคนที่ถูกชนบาดเจ็บสาหัสหรือตาย ต้องจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท

4. ถ้ารถท่านมีประกันท่านตัองรีบติดต่อกับบริษัทประกันของท่านทันที เพราะบริษัทประกันเขาจะมีเจ้าหน้าที่มาตามที่เกิดเหตุ พร้อมทำแผนที่เกิดเหตุไว้พร้อมมูลเพื่อเอาไว้ต่อสู้คดี

5. ถ้ามีกล้องถ่ายรูปหรือหากล้องถ่ายรูปใกล้ที่เกิดเหตุได้ต้องรีบถ่ายรูปรถ และที่เกิดเหตุไว้ให้พร้อม เพื่อจะได้เก็บไว้เป็นหลักฐานการต่อสู้คดีต่อไป และหากมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้งหรือมูลนิธิร่วมกตัญญูถ่ายภาพศพหรือ ที่เกิดเหตุไว้ ก็ให้ติดต่อขอภาพที่ถ่ายเก็บไว้ให้ได้ เพราะจะเป็นประโยชน์แก่รูปคดีในภายหลัง

6. ควรช่วยเหลือคนเจ็บหรือค่าทำศพของผู้เสียชีวิต เรื่อง นี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ คนขับรถ มักไม่ค่อยเห็นประโยชน์ ของการช่วยเหลือเหล่านี้ ความจริงเมื่อเราขับรถชนคนตาย บาดเจ็บ หรือการขับรถโดยประมาทนั้น เรามีความผิดทั้งทางกฎหมายแพ่ง และอาญา

ทางอาญา เราอาจจะต้องรับโทษติดคุกติดตะราง ทางแพ่ง เราจะต้องชดใช้ค่าเสียหาย ค่าบาดเจ็บ ค่าทำศพให้กับเขาอีก คือติดคุกแล้วยังจะต้องเสียเงินให้กับฝ่ายคนเจ็บ คนตายเขาอีก ทีนี้ถ้าหากเราช่วยเหลือคนเจ็บ หรือใช้ค่าทำศพคนตายแล้ว มีผลดียังไง ตอบได้ว่า มีผลดีมาก ยกตัวอย่างเช่น
เรา ขับรถชนคนบาดเจ็บไปโรงพยาบาล ต่อมาอัยการฟ้องเราต่อศาล เราก็แถลงต่อศาลว่า เราช่วยเหลือคนเจ็บส่งโรงพยาบาล ส่วนมาก ศาลจะเห็นว่า เราเป็นคนดีมีน้ำใจ ศาลก็อาจจะรออาญาให้เราโดยไม่จำคุกเรา แต่ถ้าเราชนแล้วหนี ส่วนมาก ศาลมักจะจำคุกเราเลย เพราะเห็นว่าเราเป็นคนแล้งน้ำใจ การ ตกลงใช้ค่าเสียหายให้คนเจ็บก็มีประโยชน์มากยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราไม่พยายามตกลงใช้ค่าเสียหายให้กับคนเจ็บ ตำรวจเขาจะมีระเบียบไว้ว่า ไม่ให้คืนรถของกลางให้แก่ผู้ต้องหา จนกว่า ผู้ต้องหา จะพยายาม ตกลงกับฝ่ายผู้เสียหาย และถ้าหาก เราชดใช้ค่าเสียหาย จ่ายค่าทำศพให้เขา คดีแพ่งก็ระงับ เพราะถือว่า ยอมความคดีแพ่งกันแล้ว จะฟ้องเรียกค่าเสียหายเราในทางแพ่งไม่ได้อีกแล้ว และถ้าเราถูกฟ้อง คดีอาญาต่อศาล ผู้เสียหาย จะมาแถลงต่อศาลว่า เราได้ชดใช้ค่าเสียหายให้เขาแล้ว ส่วนมากแล้ว ศาลจะปรานีจำเลย โดยตัดสินให้รออาญาแก่จำเลย เห็นหรือยังว่า การช่วยเหลือคนเจ็บ และการมีน้ำใจนั้นดีอย่างไร

อยากรวย...ต้องขายประกันรถยนต์ เพียงสมัคร 200 บาท คับ

***ทำไมต้องขายประกันรถยนต์? - รถยนต์ในประเทศไทยมีมากกว่า 30 ล้านคัน
***ต้องเดินขายไปเรื่อยๆหรอ แล้วจะขายให้ใคร? - เปล่า แค่ขายให้ตัวเอง,ญาติพี่น้อง,เพื่อน,คนรู้จัก
***รายได้ดีหรอ? - ถ้าคุณซื้อประกันจากนายหน้าคนอื่นเขาได้ค่าคอมฯจากคุณ 10-15
% หรือค่าเบี้ยประกัน 20,000 บาท ที่คุณซื้อประกันรถยนต์ไป ต้นทุนจริงๆแค่ 17,580 บาท
นายหน้ากินค่าคอมฯจากคุณ 2,420 บาท(คิดจากค่าคอมฯ 13% )
## การคิดค่าคอมมิชชั่น## (เบี้ยประกันจากบริษัท x ถอดภาษี 93.09% x % ค่าคอมมิชชั่นตามตาราง) = ค่าคอมมิชชั่นสุทธิ
***แล้วทำอย่างไรถึงจะไม่ต้องเสียค่าคอมฯให้นายหน้า - สมัครเป็นนายหน้าเองเลยสิ ค่าสมัครแค่ 200.- บาท คุณก็มี Code ตัวแทนเป็นของคุณเองตลอดชีวิต สามารถซื้อให้ญาติพี่น้อง,เพื่อน,คนรู้จัก ของคุณ
ราคาทุนจากบริษัทโดยผ่านโบรกเกอร์ ประกันภัยโดยตรง โดยที่ ญาติพี่น้อง,เพื่อน,คนรู้จัก ไม่ต้องเสียค่าคอมฯให้ตัวแทนคนอื่น แต่เปลี่ยนมาเป็นตัวคุณเอง
***แล้วจะรวยได้อย่างไร? - ก็ขายเอากำไรจากคนอื่น
หรือ แค่แนะนำให้เขาสมัครตัวแทนเหมือนคุณ คุณก็จะได้ 1% เป็นค่าแนะนำถ้าคนที่คุณแนะนำเขาทำยอดได้
100,000/เดือน คุณก็ได้ได้ส่วนแบ่งค่าแนะนำ 1,000 บาท/เดือนโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย ยิ่งแนะนำเยอะยิ่งได้เยอะ(ไม่ได้บังคับ)

นี่ไม่ใช่การขายแบบลูกโซ่เหมือนยาลดความอ้วน,โสมเกาหลี,หรือผลิภัณฑ์อาหารเสริม เพราะเราไม่ได้บังคับให้คุณทำยอด ทำก็ได้ไม่ทำก็ได้แต่นี่คือ ประกันภัยรถยนต์เรื่องใกล้ตัว ที่กฏหมายบังคับ ให้ต้องต่อทุกปี (ภาคบังคับ คือ พ.ร.บ.)(ภาคสมัครใจ คือ ประกันชั้น 1 ,2+,3+) เหมือนเสียภาษีเงินได้ประโยชน์ที่คุณจะได้รับเต็มๆ เมื่อสมัครตัวแทนเอง (200.-) คือไม่ต้องเสียค่าคอมฯให้คนอื่นคุณประหยัดเงินคุณเองได้ถึงปีละ (2,000-5,000/ปี)






โปรโมชั่นที่ผมจะให้มอบแก่เพื่อนตัวแทน และผู้ที่สนใจทุกท่านก็คือทางลัดสู่การขึ้นตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการ เพื่อกินค่าบริหารทีม 2% นั่นเอง วิธีง่ายๆ คือ ท่านใดที่สมัครหลังจากเดือนกุมภาพันธ์ 2552 เป็นต้นมา ภายใต้สายงาน Wowinsure.com
หากสามารถหาทีมงานติดตัวได้จำนวน 10 คนภายในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้

ทาง Wowinsure.com จะโอนผู้สมัครรายใหม่ให้คุณอีก 10 คนทันที นั่นแสดงว่าคุณจะสามารถขึ้นเป็นผู้ช่วยผู้จัดการ มีทีมงานที่คุณแนะนำเอง 20 คน ภายในสิ้นเดือนกรกฏาคม 2552 ท่านใดที่ยังไม่ได้สมัคร ก็สามารถร่วมรายการโปรโมชั่นนี้ได้เช่นกัน โดยเริ่มสมัครตั้งแต่วันนี้ และเริ่มแนะนำธุรกิจให้คนที่มีรถยนต์อย่างจริงจัง การหาคนมาร่วมธุรกิจประกันภัยรถยนต์แค่ 10 คนก่อนวันที่ 15 เดือนหน้าคงไม่ใช่เรื่องยาก เพราะเรามีเว็บไซต์เป็นเครื่องมือช่วย หรือใครที่ไม่เก่งทางด้านคอมพิวเตอร์ เพียงแค่คุณนำใบสวนลดไปให้ผู้มีรถยนต์อ่าน หากเค้ารู้ว่าสามารถลดเบี้ยประกันได้ปีละหลายพันบาท แลกกับการเสียค่าสมัครเพียง 200 บาท มันคุ้มมาก

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่


สรชา ศรีไทยซุปเปอร์แวร์087-790-4583Email: cha51srithai@gmail.com
sorachashop@gmail.com

ดูรายละเอียดคลิกที่ ทดลองฟรี ใช้เว็บฟรี
http://agent.wowinsure.com/?id=156



ศรีไทยซุปเปอร์แวร์เปิดรับสมัครสมาชิกตัวแทนจำหน่ายซุปเปอร์แวร์เมลามีน และกล่องถนอมอาหาร Superware lock&lock ทั่วประเทศ Parttime&Fulltime มีบริการจัดส่งทั่วประเทศ เป็นสมาชิกแล้วได้อะไร 1.สมัครเป็นสมาชิกเพียง 500 บาทครั้งเดียวตลอดชืพรับส่วนลดสูงสุดและของแถมนอกเหน ือแคตฯ
ฟรี ค่าจัดส่ง 100 บาท คับ 2.รับกระเป๋าเอกสารอย่างดีพร้อมแคตตาล็อกรวมสินค้า ทั้งหมดและสินค้าโปรโมชั่นพิเศษ,คู่มือการดำเนินธุรก ิจและสินค้าตัวอย่างเพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสสินค้าจร ิง มูลค่ากว่า 700 บาท คับ 3.แคตตาล็อกสินค้าโปรโมชั่นราคาลดประจำเดือนส่งให้ ถึงบ้านทุกเดือน เพื่อช่วยส่งเสริมการขาย 4.ไม่ต้องลงทุนมากสามารถให้ลูกค้าเลือกสินค้าในแคต ตาล็อกได้เลย
5.เว็บไซค์ ฟรี มูลค่า 1500บาท หากสนใจทำเป็นธุรกิจก็จะมีแผนการตลาดให้ท่านทำ โดยทางบริษัทก็จะมีค่านำมัน ,โบนัสประจำเดือน, คอมมิชั่น,เงินเดือน,ค่าบริหารทีมงานและท่องเที่ ยวทั้งในและต่างประเทศ โดยไม่กระทบกับงานประจำ สนใจธุรกิจหรือต้องการซื้อใช้ในราคาพิเศษติดต่ อได้ที่ คุณสรชา หรือ พี่ชา T.087 790 4583 e-mail : cha51srithai@gmail.com
sorachashop@gmail.com
ดูรายละเอียดคลิกที่ ทดลองฟรี ใช้เว็บฟรีhttp://superwareteam.com/?id=youcando


http://srithaionline.com/?id=youcando








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น